Programmer เงินเดือนเดือนละ 1,000,000 เป็นไปได้หรือไม่?

TiMeFF
2 min readFeb 11, 2018

--

หลังจากมาใช้ชีวิตโปรแกรมเมอร์ ก็มักจะเจอหัวข้อตามกรุ๊ปเรื่องเงินเดือนเอย เรื่องทำงานหนัก เจ้านายไม่เข้าใจเอย หนักสุดก็เรื่อง อายุขึ้นเลข 3 แล้วมีใครยังเขียน Code อยู่บ้าง เออ มันทำให้ผมเริ่มตระหนักขึ้นมา เอ๊ะ… ถ้าไม่นับเรื่องความชอบแล้วเนี่ย ผมย้ายงานมาถูกสายหรือเปล่า ? และนี่คือมุมมองของผมหลังจากไปนั่งๆนอนๆคิดมาครับ

ย้อนกลับไป 6 เดือนที่แล้ว ในวันที่ฝนตก ซื้อเข้ากล่องมากินกับน้องชายบนห้อง

น้องชายผมเรียน วิศวะ อยู่ครับ สาขาเครื่องกล ถ้าให้ระบุชัดเจน

น้องชาย: เฮียธาม มีพี่ที่คณะมาบอกว่า ถ้าจะได้งานดีๆ เงินเดือนดีๆ รู้เครื่องกลอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้คอมด้วยธาม: อืม …

จบการสนทนา (ที่จริงผมอธิบายให้น้องฟังต่อ แต่ขอเขียนเป็น บรรยายโวหารข้างล่างครับ 555)

ผมคิดว่าสิ่งที่พี่คนนั้นพูดมา ถูกต้องครับ แต่ถูกแค่บางส่วน ที่จริงประเด็นของคำว่า งานดีๆ เงินดีๆ เนี่ย มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แค่ว่าเก่ง ขยัน รู้กว้างหลายอย่าง หรือ รู้ลึกอย่างเดียว แต่มันคือหลัก Demand & Supply (อุปสงค์ อุปทาน) ดีๆนี่เอง

ก่อนจะไปอธิบายหลักข้างต้น ผมขอยกอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ อันนี้เป็นบทสนทนากับพี่ที่ผมเคารพที่ทำงานอีกท่านหนึ่ง

พี่: Dev บางที มันอาจไปตันที่แถวแสนต้นๆ ได้เพราะลองคิดดู สมมุติมี Dev Level 80 กับ Level 100 บางทีจ้าง Dev Level 80 สองคน จะได้งานมากกว่า Dev Level 100 ที่เงินกระโดดหนีไปไกลกว่า

ก็ถูกอีกครับ แต่ยังขาดไปอีก Jigsaw ตัวนึงคือ บริบท ของเนื้องาน เป็นไงมาดู

Demand & Supply ของความสามารถ

ผมเห็นเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนที่มีเงินเดือนสูงๆ แน่นอนสิ่งหนึ่งที่คนเหล่านี้มีร่วมกันคือความเก่งในตัวเนื้องานที่ทำครับ แต่ทว่าที่จริงมันไม่ได้การันตีว่าคุณจะมีผลตอบแทนที่สูง

ประเด็นคือความเก่งที่คุณมีนั้นมี Demand (ความต้องการ ในที่นี้ก็จากนายจ้าง) ที่มากพอ ในขณะที่ Supply (คนที่ทำเรื่องนั้นๆ เป็น) ไม่ค่อยมี หรือ มีไม่พอ Demand

กรณีสมมุตตัวอย่างในไทย เอาแค่ด้านภาษาก่อนละกัน เช่น (ผมยกตัวอย่างคร่าวๆ นะครับ บางทีภาษาที่ผมเขียนอาจไม่ได้มีสถานการณ์ตามที่ผมยกตัวอย่าง แต่เอาเป็นไอเดียแล้วกันครับ)

  • เก่งภาษาแปลกๆ เช่น Lisp, Haskell ขั้นเทพ ชนิดหาตัวจับยาก = Supply น้อย แต่ทว่า Demand ก็น้อยด้วย เจ๊ากันไป
  • เก่ง PHP = Demand มาก เว็บหางาน 80% ต้องการหมด แต่ทว่า Supply ก็มากเหลือเกิน คนเขียนเป็นเยอะมาก จบ เจ๊ากันไป

ตรงนี้ประยุกต์ใช้ไม่ใช่กับแค่เรื่องภาษานะครับ อาจจะเป็น Domain Expertise เช่น Dev สาย E-Commerce สาย FinTech หรือ Business Intelligent / Data Science อะไรก็ว่าไป

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเก่ง PHP ขั้นเทพ จะเงินเดือนโดนกดนะครับ ถ้านายจ้างมีส่วนงานที่จำเป็นต้องใช้ความเก่งระดับนั้นของคุณ (และคุณอธิบายให้เขาเข้าใจได้) ก็ควรได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามไปด้วย

Demand & Supply ความลึกและกว้างของตัวงาน

ในขณะเดียวกันไปที่เรื่อง ที่น้องผมพูดว่าเก่งเครื่องกลอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเก่งคอมด้วย ผมมักจะได้ยินเรื่องราวว่าโปรแกรมเมอร์พอแก่ตัวขึ้น ต้องไปฝึก Soft Skill / People Skill อัพตัวเองไปเป็น Project Manager เพื่อเป็น Career Path อัพผลตอบแทนต่อไป

ผมคิดว่าส่วนหนึ่งมันเกิดจาก Demand ของประเภทงานในประเทศเรา อาจจะยังไม่ได้มีความลึกขนาดนั้น (ลึกในที่นี้เช่น เขียน Kernel iOS หรือประมาณ Rob Pike มาสร้างภาษา Go) ซึ่งสุดท้ายพอไม่มี Demand ด้านเหล่านั้น นายจ้างก็มีแนวโน้มที่จะไม่ Pay ความเก่งส่วนเสริมของคุณ แต่ไปให้ความสำคัญกับงานด้าน Management / Manage Project ให้ Deliver ทันกำหนดลูกค้า Project ออกมาดีเสียมากกว่า

ฉันใดฉันนั้นครับ ในบทสนทนาของผมกับพี่ที่ทำงานก็เช่นกัน ถ้าไม่มีงานที่ Require Dev ที่ Level มากกว่า 80 นายจ้างย่อมเลือกที่จะจ้าง Dev Level 80 มาสองคนจะดีกว่า

ตรงนี้จึงอาจเป็นเหตุให้เงินเดือนสาย Programmer ในไทยมีการหักปลาย ต่างจากอาชีพที่เรียกได้ว่าเป็น The Job Only You Can Do เช่น ทนาย ที่ถ้าไม่จ้างคนนี้ คดีแพ้แน่ หรือ Fund Manager ระดับเทพ ที่สร้างผลตอบแทนให้กองทุน ซึ่งอาชีพเหล่านี้ ในไทยมี Demand ครับ

คำถามคือ เอ้าา! ผมไม่เก่ง Management / ไม่เก่งพูด ผมอยากเก่ง Coding ไปอย่างงี้ ผมควรทำไง ถ้าให้ผมตอบ ผมจะสนับสนุนให้เขาเป็นตัวของตัวเอง เก่งให้สุดไปเลย เพียงแต่ว่าต้องออกไปหา Demand คุณให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายงาน ย้ายเมือง ย้ายประเทศ (อันนี้ไม่ได้ประชดนะ) เชื่อเสมอว่า Knowledge ระดับ Cutting Edge ทำให้โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาต่อไปครับ

สรุปสุดท้าย ผมตัดสินใจยากมากว่าจะปล่อยบทความนี้ออกมาดีไหม เพราะที่จริง มันเป็นเรื่องไม่สนุกเอาเสียเลย ผมคิดว่าตัวผมและอีกหลายๆคนเพียงแค่ทำงานที่เราชอบ ได้เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ Algorithm ใหม่ๆ อยากมีมุมส่วนตัวให้ได้เล่นไปเรื่อย แต่นี่แหล่ะครับคือโลกจริงที่เราอยู่กัน ผมเชื่อว่าถ้าเราพยายาม เราจะหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างโลกจริงกับโลกที่เราชอบได้แน่นอนครับ :)

ขายของเล็กน้อยก่อนจากกัน สนใจบทความอย่าลืมไปติดตามกันได้ที่ timeff.io หรือเพจ เดฟเรนเจอร์ fb.com/devranger007 นะครับผมม :)

--

--

TiMeFF

(timeff.io) Tech Entrepreneur, Developer ,and a million other things